ด่วน! 40 สว. ยื่นศาลรธน. ถอด เศรษฐา-พิชิต พ้นตำแหน่ง ปมตั้ง รมต.ขาดคุณสมบัติ

 

ด่วน! 40 สว. ยื่นศาลรธน. ถอด เศรษฐา-พิชิต พ้นตำแหน่ง ปมตั้ง รมต.ขาดคุณสมบัติ

ด่วน! 40 สว. ยื่นศาลรธน. ถอด เศรษฐา-พิชิต พ้นตำแหน่ง ปมตั้ง รมต.ขาดคุณสมบัติ

ได้มีรายงานข่าวแจ้งว่า สว.ได้ร่วมกันเข้าชื่อ เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ของนายพิชิต ชื่นบาน หลังมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) และ (5) ประเด็นที่ว่าด้วยขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบีติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยยื่นเรื่องผ่านนประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาแล้ว

โดยนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว. ผู้ร่วมลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ว่า ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของ สว. ที่ต้องทำหน้าที่ ฐานะเป็นผู้แทนปวงชน หลังประเด็นการดำรงตำแหน่งของนายพิชิตนั้นมีผู้แสดงความเห็นในวงกว้าง และเวทีสาธารณะว่าเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายเห็นว่าควรส่งให้องค์กรที่มีหน้าที่ คือศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย โดยมี สว. ร่วมเข้าชื่อ 40 คน จากที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของ สว.ที่มีอยู่

สำหรับเหตุผลที่ระบุและบรรยายให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา คือ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งกรณีของนายพิชิตนั้น มีข้อเท็จจริงที่ปรากฏให้เห็นว่ามีการละเมิดอำนาจศาล และมีคำสั่งศาลสั่งให้จำคุก ทั้งนี้มีคำบรรยายรายละเอียดข้อเท็จจริงของศาลที่ชัดเจนว่ามีพฤติกรรมทุจริต ติดสินบนต่อกระบวนการยุติธรรม และถูกนำเรื่องเข้าสู่สภาทนายความให้ลบชื่อจากการเป็นทนายความ ดังนั้นจึงเป็นกรณีที่ชัดแจ้งว่าไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจัก และยังมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นอกจากนี้ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวถึงกรณียื่นให้พิจารณาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของนายเศรษฐา ด้วยว่า เป็นกรณีสืบเนื่องกัน ว่ามีประเด็นที่ทักทวงต่อการตั้งนายพิชิตให้ดำรงตำแหน่ง แต่ทำไมนายกฯยังเสนอชื่อและโปรดเกล้าฯ ให้นายพิชิตดำรงตำแหน่งในตำแน่งรัฐมนตรีอีก ดังนั้นจึงถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ

กรณีนายกฯ ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ส่วนที่ระบุว่าได้หารือกับกฤษฎีกาแล้ว พบว่าเป็นการหารือที่ไม่ตรงประเด็น ทั้งระยะเวลาการพ้นโทษ และการตีความระหว่างคำสั่ง กับคำพิพากษาเหมือนกันหรือไม่ ทั้งนี้เรายังพบประเด็นที่เป็นปัญหา จึงเข้าชื่อเพื่อยื่นใหห้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ตนทราบว่าสำนักงานวุฒิสภาได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และจากสำเนาเอกสารทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องแล้ววานนี้ (16 พ.ค.) เวลา 10.20 น. ดังนั้นหากศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา ต้องพิจารณาในประเด็นความสิ้นสุดลงของรัฐมนตรี และตำแหน่งนายกฯด้วย โดยรายละเอียดต่อจากนี้อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ทั้งนี้ตนยืนยันว่าเป็นการทำหน้าที่ฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทยตามหน้าที่และอำนาจของ สว. ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *