หนุ่มดัตช์-สาวเกาหลีใต้ เจอบริการฟรีจากคนไทย แถมไม่ยอมรับทิปอีก (ถึงกับต้องถามย้ำซ้ำๆ)

หากเราต้องการจะทราบมุมมองของชาวต่างชาติ ที่มีต่อประเทศไทย ในแบบที่มีอคติน้อยที่สุด หรือมีความเป็นกลางมากที่สุด นักท่องเที่ยวหรือ expat คนนั้น ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นนักท่องเที่ยว ที่ไม่ได้วางแผนที่จะอาศัยอยู่ในประเทศไทย หรือมีประเทศโปรดของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งความชอบของแต่ละคน อาจจะแตกต่างกันออกไป ตามรสนิยม และความเหมาะสมของคนๆนั้น เรื่องราวของ Jouke หนุ่มดัตช์วัย 26 ปี จากช่อง Youtube ที่ชื่อ Travel

with Jouke ที่เมื่อ 5 ปีก่อน ได้เคยมาท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยมีแฟนสาวเป็นคนไทย การเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทยครั้งแรกของ Jouke ก็เพราะแฟนสาวของเขาเอง ได้เชื้อเชิญให้ลองมาท่องเที่ยวที่นี่ จากแผนเดิม ที่จะต้องไปพักผ่อนที่ชายหาด ในประเทศสเปนที่เขาคุ้นเคย ทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งวัฒนธรรม อาหาร ภาษา ที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ทำให้ Jouke เริ่มชอบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนที่จะเลิกรากับแฟนของเขาในอีก 2 ปีต่อมา หลังจากนั้น เขาได้ชวนพี่ชายของเขา ร่วมเดินทางท่องเที่ยวในเอเชีย โดยมีจีนเป็นประเทศแรก ที่เขาต้องการไป เพื่อที่จะทำบางโครงการ เพื่อให้จบการศึกษาทางด้าน logistics management แต่ก็ถูกยกเลิกถึง 2 ครั้ง จนเมื่อ 8 เดือนก่อน เขาได้ข่าวว่า เวียดนามได้เปิดประเทศแล้ว ทำให้เขาดีใจมาก และมุ่งหน้าไปที่นั่นทันที เขาก็ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่นั่น ตั้งแต่เหนือจรดใต้ และเขาก็เริ่มตกหลุมรักเวียดนาม แผนที่เขาวางเอาไว้ก็คือ อาจจะเดินทางไปท่องเที่ยวสัก 3 สัปดาห์ แล้วกลับไปทำงาน part-time ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อหารายได้เพิ่ม ในการใช้เป็นทุนท่องเที่ยวต่อไป ซึ่งคนส่วนใหญ่ พยายามหางานประจำเพื่อสร้างฐานะ ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่เขาบอกว่า มันยังไม่ถึงเวลานั้น เขาต้องการเดินทางท่องเที่ยวก่อน และเวียดนามก็เป็นประเทศที่เขาอยากจะไป เพราะรู้สึกว่า ที่นั่นเป็นเหมือนบ้าน เขาพยายามจะหางานทำที่นั่น และเขาก็คิดว่า มันเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก สำหรับตัวเขา แม้ว่าประเทศอย่างเวียดนาม หรือกัมพูชา ไม่ได้มีความเจริญก้าวหน้าอะไรมากนัก อาจจะเพราะอากาศที่อบอุ่น ทำให้คนไม่ค่อยอยากจะทำงานกัน แต่ประเทศเหล่านี้ กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เขาประทับใจเวียดนาม ตรงที่ผู้คนมีความเป็นมิตร เปิดใจ และเข้าสังคมมากกว่าที่ประเทศบ้านเกิดของเขา เมื่อเขาเดินไปตามถนน ชาวเวียดนามก็จะมอง และยิ้มให้เขาอย่างไม่มีเหตุผล เขาชอบอากาศที่อบอุ่นทั้งปี เขาเกลียดอากาศหนาว ค่าครองชีพที่นั่นก็ต่ำ ที่เนเธอร์แลนด์ ค่าใช้จ่ายต่างๆสูงมาก จนดูเป็นเรื่องตลกไปเลย คนรุ่นใหม่ ก็ยากที่จะสร้างฐานะได้ จากอัตราเงินเฟ้อที่สูง Jouke บอกว่า เขาชอบคนเอเชีย ที่เขามองว่า หน้าตาสวยกว่าคนผิวขาวที่เนเธอร์แลนด์ อาจจะเพราะเขาคุ้นเคยกับรูปรางหน้าตาแบบนั้นมาตั้งแต่เกิด เวียดนามยังมีธรรมชาติที่สวยงาม มีน้ำตกมากมาย โดยเฉพาะชายหาดที่ทอดยาว รวมกันเป็นพันๆกิโลเมตร มีป่าเขาต่างๆมากมาย อาหารก็ถูกปากเขามากด้วย และนั่นทำให้การเดินทางครั้งแรกของ Jouke ก็คือการกลับไปท่องเที่ยวที่เวียดนามอีกครั้ง ก่อนที่จะแวะไปที่กัมพูชา จนล่าสุด เขาได้เดินทางมายังเมืองไทย ประเทศที่ 3 ตามที่เขาได้วางแผนเอาไว้ โดยที่ยังไม่ทราบว่า ที่ไหนจะเป็นประเทศต่อไป มันขึ้นอยู่กับการขอวีซ่า และระยะเวลาที่ได้ด้วย

ใน 11 เดือนแรกของปี 2565 นักท่องเที่ยวจากประเทศเนเธอแลนด์ มีจำนวน 98,905 คน สูงสุดเป็นอันดับที่ 21 ของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆทั่วโลก ที่เดินทางมายังประเทศไทย Jouke เริ่มต้นเที่ยวเมืองไทย ด้วยการไปเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวัง ดูเหมือนว่าเขาจะหลงไหลจิตรกรรมฝาผนังมาก ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามของศิลปะเท่านั้น แต่มันยังบอกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของคนไทยเอาไว้ด้วย Jouke บอกว่า เขาสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมง เพื่อเดิมชมงานศิลปะพวกนี้เพียงอย่างเดียว หลังจากเดินชมจุดต่างๆที่นั่นแล้ว Jouke ต้องการทานผัดไทย ที่เป็นต้นตำรับแท้ๆ จนไปพบกับร้านอาหารร้านหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เขาบอกว่าผัดไทยสามารถหาทานได้ทั่วโลก แต่มันดีกว่า ที่จะได้ทานในกรุงเทพฯ และเขาก็ไม่ได้ทานผัดไทยมานานมากแล้วด้วย มันเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เขาอยากมาเมืองไทย อาหารยุโรป เทียบอาหารเอเชียไม่ติดเลย ที่สำคัญ อาหารเอเชียดีต่อสุขภาพมากๆ สังเกตได้จากคนส่วนใหญ่ที่นี่ ที่ไม่ค่อยจะพบคนอ้วน ซึ่งมันตรงกันข้ามกับในยุโรป

Jouke พูดถึงการขับรถในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับที่บ้านของเขา จากซ้ายเป็นขวา จากขวาเป็นซ้าย ทำให้เขามักจะเผลอ เข้าใจผิดอยู่เป็นประจำ ทำให้ต้องระมัดระวังในการข้ามถนน Jouke ยังได้พูดถึงสายไฟสายเคเบิล ที่ถูกแขวนอยู่บนอากาศ ที่เขาบอกว่า กรุงเทพฯมีชื่อเสียงในเรื่องนี้ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในยุโรป สายพวกนี้ถูกฝังอยู่ใต้ดิน หากเกิดอะไรเสียหายขึ้นมา ก็ต้องปิดถนนช่วงนั้น เพื่อขุดและทำการซ่อมแซม Jouke สรุปค่าใช้จ่ายของมื้อนี้ ว่าอยู่ที่ 90 บาท สำหรับผัดไทยและกาแฟเย็น ซึ่งเขาจะให้ทิปเพิ่มอีก เพราะอาหารอร่อยมาก และวิวทิวทัศน์ก็สวยงาม


Jouke ได้พูดบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับกรุงเทพฯ ทุกครั้งที่เขาคิดถึงกรุงเทพฯ มันทำให้เขานึกภาพยนตร์เรื่อง The Hangover เขาบอกว่า ถนนในกรุงเทพทุกที่กว้างใหญ่มาก มีรถแท็กซี่สีเหลืองเขียว และรถตุ๊กตุ๊กเต็มไปหมด แต่รถตุ๊กตุ๊กที่นี่ ไม่เหมือนในอินเดียหรือกัมพูชา เพราะมักจะมีการปรับแต่งให้เหมือนรถแข่ง มากกว่าที่จะเป็นแท็กซี่สำหรับนักท่องเที่ยว ก่อนที่เขาจะขึ้นรถตุ๊กๆ มุ่งหน้าไปยังถนนข้าวสาร และบอกว่า เสียงรถมันเหมือนกับรถแข่งอย่างที่บอกไป เขายังพูดอีกว่า สัญญาณไฟสำหรับคนข้ามถนน นานถึง 180 วินาที ซึ่งมันนานเกินไป ไม่มีใครรอนานขนาดนั้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *