วันนี้มาพูดถึงผลกรรมของพวกล่าอาณานิคม ที่ทำให้สร้างปัญหาสารพัดมาจนถึงปัจจุบัน
และอาจจะไปถึงในอนาคตว่ากันว่าแผ่นดิน สยามแท้ๆต้องถูกแบ่งออกไปอย่างหน้าเศร้า
ชาวสยามก็ต้องพลัดพรากและพบเจอกับการแบ่ง แยกซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่านอกจาก
กัมพูชาจะไม่มีวันได้ครอบครองเกาะกูด กัมพูชาอาจจะต้องคืนประจันตคีรีเขตหรือ
เกาะกงที่เป็นอดีตเมืองคู่แฝกของ ประจวบคีรีขันให้กับประเทศ
โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระ
ราชทานชื่อเมืองใหม่ให้กับ 2 เมืองที่ อยู่ในเส้นรุ้งละติจูดเดียวกันแต่ว่าอยู่
คนละฝั่งอ่าวไทยให้เป็นเมืองคู่กันคือ เมืองนางรมยเป็นประจวบคีรีขันธ์ซึ่งอยู่
ฝั่งตะวันตกกับเกาะกงเป็นประจันตคีรีเขต ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกให้มีชื่อคล้องจอง
กันโดยมีประกาศเมื่อวันอังคารที่ 26 มิถุนายนปีพุทธศักราช
2398 ซึ่งในสมัยนั้นเมื่อฝรั่งเศสยึดยวน หรือเวียดนามและเขมรหรือกัมพูชาใน
ปัจจุบันได้แล้วก็พยายามรุกเข้าลาวซึ่ง อยู่ในความปกครองของสยามและพยายามบีบสยาม
ทุกวิถีทางโดยถือว่ามีอาวุธที่เหนือกว่า เมื่อเกิดกบฏห้อขึ้นในแคว้น 12 จุไทยและ
สยามกำลังจะยกกำลังไปปราบฝรั่งเศสก็ชิง ส่งทหารเข้าไปปราบสะก่อนอ้างว่าเพื่อช่วย
สยามแต่เมื่อปราบห้อได้แล้วฝรั่งเศสก็ไม่ ยอมถอนทหารออกถือโอกาสยึดครองเพราะว่ามี
เป้าหมายจะยึดดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ทั้งหมดโดยในที่สุดวันประวัติศาสตร์ที่คน
ไทยจะต้องจดจำก็คือวันที่ 13 กรกฎาคมปี พุทธศักราช
2436 ซึ่งเกิดวิกฤตการรศ 112 ที่ ฝรั่งเศสส่งเรือรบ 2 ลำฝ่าแนวยิงของป้อม
พระจุลเข้ามาจอดหน้ากงสูนย์ฝรั่งเศสใน กรุงเทพฯและยังเรียกเรือรบจากฐานทัพไส้
งอดอีก 10 ลำมาร่วมปิดอาวไทยโดยต่อมาได้ ส่งทหารคึดยึดเกาะสีชังเมื่อวันที่ 27
กรกฎาคมจนการค้าต้องหยุดชะงัดทั้งหมดยื่น เงื่อนไขให้สยามทอนทหารออกจากฝั่งซ้ายแม่
น้ำโขงทั้งหมดภายในเวลา 1 เดือนและให้วาง เงินทันที 3 ล้านฝรั่งยื่นข้อเรียกร้อง
ให้สยามตอบกลับภายใน 48 ชัวโมงซึ่งรัฐาน สยามรู้ดีว่าข้อเรียกร้องของฝรั่งเศสเป็น
เรื่องไม่ยุติธรรมแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ พยายามต่อรองบ่ายเบียงแต่ก็ไม่สำเร็จจนใน
ที่สุดต้องยอมลงนามในสัญญาข้อเรียกร้อง ของฝรั่งเศสในวันที่ 3 ตุลาคมและใน
ระหว่างที่ทั้ง 2 ฝ่ายออกสำรวจปักปั่นเขต แดนนั้นฝรั่งเศสได้ขอยึดเมืองจันทบุรีไว้
ก่อนเพื่อให้สยามปฏิบัติตามสัญญาทั้งนี้ เพราะฝรั่งเศสเห็นว่าจันทบุรีเป็นจุด
ยุทธศาสตร์สำคัญซึ่งสยามก็ต้องยอมอีกโดย จากนั้นฝรั่งเศสได้ยึดจันทบุรีตั้งแต่ปี
2436 แต่เมื่อปักปันเขตแดนเสร็จสิ้น ฝรั่งเศสกลับหน่วงเหนี่ยวประวิงเวลาและ
บีบคั้นให้สยามเซ็นสัญญาอีกฉบับย่อมยกดิน แดนฝั่งขวาของแม่น้ำโค้งซึ่งได้แก่เมือง
หลวงพระบางบริเวณฝั่งขว้าและเมืองจำปาสัก โดยฝรั่งเศสจะยอมผ่อนคลายสิทธิ์สภาพนอก
อาณาเขตให้โดยการผ่อนคลายนี้หมายถึงยกให้ คนเอเชียในบังคับของฝรั่งเศสแต่ยังไม่ยอม
ยกเลิกแก่คนฝรั่งเศสซึ่งในเวลานั้นสยามก็ ต้องยอมอยู่ดีเซ่นสัญญาตามที่ฝรั่งเศส
เรียกร้องเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2446 เพื่อแลกกับจันทบุรีกลับคืนแต่แล้ว
ในชั้นเชิงแบบหมาป่าก็ยังไม่สิ้นเพื่อ เป็นหลักประกันให้สยามปฏิบัติตามสัญญา
ฝรั่งเศสก็ขอยึดจังหวัดตราชและเกาะทั้ง หลายตั้งแต่แหลมสีงในอำเภอแหลมงอบรวมทั้ง
เกาะกงซึ่งขณะนั้นเป็นจังหวัด ประจันตคีรีเขตของสยามให้อยู่ในความปก
ครองของฝรั่งเศสและต้องรอให้ทั้ง 2 ฝ่าย ทำการสำรวจเส้นพรหมแดนตามสัญญานี้ให้
ฝรั่งเศสเสร็จสิ้นซะก่อนฝรั่งเศสจึงจะยอม ถอนทหารออกจากจังหวัดจันทบุรีและสยามก็
ต้องยอมอีกเช่นเคยซึ่งการสำรวจก็ได้เสร็จ สิ้นลงในวันที่ 9 ธันวาคมปีพุทธศักราช
2447 ฝรั่งเศสจึงยอมถอนทหารออกจาก จันทบุรีในวันที่ 12 มกราคมปีพุทธศักราช
2448 และความอยากได้ดินแดนสยามของ ฝรั่งเศสก็ยังคงไม่จบสิ้นมีจิตกรฝรั่งเศส
คนนึงชื่ออองรีมูโอได้เขียนรูปนครวัด นครทมไปเผยแพร่ฝรั่งเศสเห็นเป็นสิ่ง
มหัศจรรย์ก็เลยอยากได้เอาไว้เป็นเป็น สมบัติของตัวรวมทั้งอยากได้ทะเลสาบเสมราช
อันกว้างใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งอาหารอุดม สมบูรณ์จึงเสนอแลกจังหวัดตราชกับเสมราช
พระตะบองและศรีโสภณซึ่งเป็นมณฑลบูรพาของ สยามซึ่งสยามก็อยากได้ตราชเพราะว่ามีคน
ไทยอยู่มากก็เลยต้องยอมอีกและในสัญญาฉบับ ใหม่ลงวันที่ 23 มีนาคมพุธศักราช
2449 ไทยต้องยอมยกมณฑลบูรคอันประกอบด้วย พระตะบองเสมราชและศรีโสภณให้กับฝรั่งเศส
เพื่อแลกกับอำเภอด่านซ้ายของจังหวัดเลย รวมทั้งจังหวัดตราชตั้งแต่แหลมสิงไปจนถึง
เกาะกูดแต่ไม่ยอมคืนจังหวัด ประจันตคีรีเขตดังนั้นจึงเป็นอันว่า
จังหวัดประจันตคีรีเขตหรือเกาะกงจึงต้อง หลุดไปอยู่กับฝรั่งเศสนับตั้งแต่บัดนั้น
เป็นต้นมาจนเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาในขณะ นี้โดยตอนนั้นเองมีคนทไทยที่ไม่ยอมอยู่
ใต้การปกครองของฝรั่งเศสได้สละบ้านช่อง แล้วก็ย้ายมาอยู่ที่เกาะกูดและจันทบุรี
เป็นจำนวนมากคนกัมพูชาจากเมืองต่างๆก็เลย ย้ายเข้ามาแทนที่โดยปัจจุบันนี้ในเกาะกง
ปรากฏว่ามีชาวไทยเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น ซึ่งชาวไทยในเกาะกงจะมีสำเนียงแบบเดียว
กับที่จังหวัดตราชแต่เดิมเกาะกงเมื่อปี พุทธศักราช
2506 ได้มีการออกกฎห้ามชาวเกาะกงพูดภาษา ไทยโดยจะปรับเป็นคำละ 25 เรียวห้ามมีเงิน
ไทยและห้ามมีหนังสือไทยอยู่ในบ้านหากเจ้า หน้าที่ตรวจพบจะถูกทำลายให้สิ้นซากและต่อ
มาในปีพุทธศักราช 2507 ก็ได้มีค่าปรับการ พูดภาษาไทยเพิ่มขึ้นเป็น 50 เรียวซึ่งแม้
ว่าชาวไทยเกาะกงจะถูกจำกัดสิทธิ์ทางภาษา วัฒนธรรมและประเพณีแต่ก็มีคนเฒ่าคนแก่ที่
ยังรักษาประเพณีและเอกลักษณ์การใช้ภาษา ไทยยทำให้ประจันตคีรีเขตเมืองคู่แฝกของ
ประจวบคีรีคั้นเหลืออยู่ไว้แต่เพียงชื่อ ในประวัติศาสตร์เท่านั้นโดยมีหลายท่าน
เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะว่า ประวัติศาสตร์น่าสนใจมากๆว่าแต่จะมีโอกาส
ได้กลับมาคืนไเพราะว่าดูจากปัจจุบันนอก จากจะไม่ได้คืนดูเหมือนมีโอกาสที่จะเสีย
เพิ่มอีกด้วยนะบางคอมเมนต์ก็บอกว่า ประวัติศาสตร์และค่านิยมรักชาตินี้เป็น
สิ่งที่สำคัญมากๆบางคอมเมนต์ก็บอกว่าอ่าน จบรู้สึกรักชาติไทยขึ้นมาเลยครับมียิ่ง
กว่านี้อีกรัชกาลที่ 5 ต้องต่อสู้กับพวก ฝรั่งเศสแต่ว่าโชคดีที่เสด็จประภาสยุโรป
ไปหาพันธมิตรจนได้รัสเซียและเยอรมันมา เป็นพันธมิตรฝรั่งเศสก็เลยยอมรามือไปโดย
บางคอมเมนต์นะคะได้มาระบุเพิ่มเติมว่ามี รายงานว่าฝรั่งเศสไถ่ประเทศตัวเองจาก
เยอรมันซึ่งนั่นใช้เงินของสยามเป็นเงิน ถุงแดงที่รัชกาลที่ 3 ทำการฆ่ากับเมือง
จีนและยังได้รับเงินจากพระ บรมวงศานุวงศ์ช่วยกันออกหากใครไม่มีเงิน
ก็จะเอาเครื่องประดับไปขายบางคอมเมนต์ก็ บอกว่าในเอเชียที่วุ่นวายมาจนถึงทุกวัน
นี้ส่วนหนึงก็เริ่มมาจากชาติยุโรปนี่แหละ บางคอมเมนต์ก็บอกว่าแหล่งพลังงานและผล
ประโยชน์ทางทะเลนั้นมีมากมายเหลือเกินและ มีผู้ได้มาบรรยายไว้นะคะว่าการลากเส้น
ละติจูจากบางสะพานน้อยมาที่เกาะกงจะตรง กับภูเขาบรรทัดนอกปลายแหลมเทียนตรงบริเวณ
เกาะเสม็ดจุดจอดเรือพระที่นั่งเวสสาตรี ของรัชกาลที่ 5 ตอนเสด็จไปเกาะกงแล้วถ้า
ลากเส้นจากเขาบรรทัดนอกหรือแหลมเทียนขึ้น ไปทางเหนือก็จะไปบรรจบกับเขาบรรทัดในหาด
เล็กรวมเป็นเทือกเขาเดียวกันขึ้นไปทาง เหนือและถ้ามองจากจุดสูงสุดของเกาะกูดไป
จนสุดหาดทรายตรงข้ามเกาะกูดก็คือแหลม เทียนที่มีเทือกเข่าพนมกระวานทอดลงมาส่วน
เกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่ติดชายฟังไม่ จำเป็นต้องกล่าวถึงเป็นของปัจจตครีเเขต
อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเกาะเสม็ดเกาะรงเกาะ รงซแล้มเพราะว่าอยู่ชิดชายฟังแต่ว่าดง
กัมพูชาปั่นกจนงงส่วนแม่น้ำคลองปอที่บอก ว่าไหลลงอ่าวสุริวงศ์ตรงกำปงโสมคนละอัน
กับแม่น้ำตรงเกาะปซึ่งกัมพูชานั้นได้ เปลี่ยนชื่อไปหมดแล้วที่สำคัญชุดที่สำรวจ
ทำแผนที่หลังทำแผนที่เสร็จก็ได้กลับไป ก่อนส่วนชุดที่มาตกลงปักปั่นเขตก็เป็นคน
ละชุดกันแล้วก็พากันมั่วภูมิประเทศจนไม่ รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเพราะว่าเน้นเข้าข้าง
กันเป็นหลักเพราะฉะนั้นเขตหลักก็เลยย้าย เข้าย้ายออกไม่หยุดดังนั้นประเทศไทยก็เลย
ต้องไปยืนยันพื้นที่ของตนเองว่าเขตแดนไทย นั้นจริงๆอยู่เขาบรรทัดนอกและยังว่าเส้น
ลติจูดลากจากบางสะพานน้อยจะมาตรงกับเทือก เข่าพนมกระวานชายแดนสุดภาคตะวันออกของไทย
ซึ่งตรงนี้คือคือหาดทรายที่กำหนดให้มอง จากจุดสูงสุดของเกาะกูดและให้แบ่งสันเขา
ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นของฝ่าย กัมพูชาแล้วที่บอกว่าแม่น้ำคลองปอจะเป็น
ของฝ่ายอินโดจีนฝรั่งเศสคือแม่น้ำที่ไหล ลงอ่าวกำปงโสมไม่เกี่ยวกับแม่น้ำเกาะปแต่
ว่ากัมพูชาก็อ้างแม่น้ำที่ไหลจากเกาะป เพื่อจะมาใช้เขาบรรทัดในหาดเล็กแต่
ภูมิประเทศก็ไม่ตรงหลักที่ 73 ก็เลยย้าย ไปย้ายมาแล้วก็หาที่ปักไม่ได้เพราะว่าตาม
สุธิสัญญาต้องใช้เขาบรรทัดนอกที่ยาวทอดมา ถึงชายทะเลหรือแหลมเทียนเพราะฉะนั้นหมาย
ความว่าจากแม่น้ำคลองปอที่ไหลลงอ่าวกำปง โสมฝั่งที่ออกมาทางทะเลเกาะรงเกาะรงสาม
แหลมจะต้องเป็นของฝ่ายไทยเหมือนสมัยเมือง ปัจจันตคิรีเขตรของไทยส่วนอีกด้านหนึไป
ทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นของฝ่ายกัมพูชา คือแผนที่ฝรั่งเศสชุดที่สำรวจทำแผนที่ได้
ทำถูกแล้วแต่ว่าชุดเจรจาของฝรั่งเศสและ กัมพูชาได้มั่วภูมิประเทศกันจนทำให้หาจุด
ปักหลักเขตแดนไม่
เจอ
