เพราะอะไรกันแน่ ประเทศที่พัฒนาแล้วถึงกลายเป็นเมืองร้าง?

ตอนนี้ใครๆก็อยากไปญี่ปุ่นนะคะไม่ว่าจะ เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือว่าต่าง
ด้าวที่เข้าไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่ง ล่าสุดได้มีการเปิดเผยตัวเลขนักท่อง
เที่ยวต่างชาติที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นในเดือน เมษายนทะลุ 3 ล้านคนเป็นเดือนที่ 2 ติด
ต่อกันซึ่งตัวเลขของเดือนเมษายนนี้เพิ่ม ขึ้นถึง 56.1 per เมื่อเปรียบเทียบกับ
เดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นสถิติที่ สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 เป็นรองเพียง
แค่เดือนมีนาคมเท่านั้นโดยในช่วง 4 เดือน แรกของปีนี้ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่าง
ชาติรวมแล้ว 11.6 ล้านคนถึงแม้จะเป็นข่าว ดีแต่ก็มีเรื่องที่น่าจับตามองเพราะว่า
ตอนนี้พบว่ามีหมู่บ้านเล็กๆถูกทิ้งรัก กระจายอยู่ทั่วป่าในจังหวัดไซตามะซึ่ง
เป็นร่องรอยของการย้ายออกและเป็นปัญหา จำนวนประชากรในชนบทซึ่งพบได้ทั่วไปในหลาย
ภูมิภาคทั่วญี่ปุ่นโดยมีการสำรวจข้อมูล ที่อยู่อาศัยและที่ดินเดือนตุล
ปี 2023 พบว่าจำนวนบ้านร้างมีมากกว่า 9 ล้านหลังซึ่งเพิ่มขึ้นจากการสำรวจก่อน
หน้านี้เมื่อปี 2021 ประมาณ 510,000 หลัง โดยทางด้านสภายุทธศาสตร์ประชากรคาดว่าใน
ปี 2050 จะมีเทศบาลจำนวน 744 แห่งจากทั้ง หมด

 


1729 แห่งของญี่ปุ่นอาจจะหายไปเนื่องจาก จำนวนประชากรนั้นลดลงอย่างรวดเร็วขณะขณะ
ที่สถาบันวิจัยประชากรและประกันสังคมแห่ง ชาติคาดว่าภายในปี
2120 ประชากรญี่ปุ่นจะมีจำนวนประมาณ 36 – 71 ล้านคนซึ่งต้องขึ้นอยู่กับระดับ
ภาวะการเจริญพันธุ์ซึ่งถ้ามีอัตราการเกิด สูงก็จะมีประชากรอยู่ที่ประมาณ 71 ล้านคน
แต่หากมีระดับป่านกลางจะอยู่ที่ 50 ล้าน คนและถ้าหากอัตราการเกิดต่ำที่สุดก็จะมี
ประชากรเหลืออยู่เพียงแค่ 36 ล้านคนเท่า นั้นโดยในปี 2023 อัตราการเกิดของประชากร
ญี่ปุ่นอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดลดลงต่อ เนื่องเป็นปีที่ 8 โดยมีทารกเกิดใหม่
เพียง 78,000 คนที่ลดลงจากปี 2022 ประมาณ 5.1 per โดยมีคณะนักวิชาการเอกชนและผู้
นำธุรกิจเสนอว่าญี่ปุ่นควรจะมีการตั้ง เป้าหมายประชากรคงที่ 80 ล้านคนภายในปี
2100 เพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจโดย กล่าวว่าประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ
ต้องเผชิญกับสังคมสูงวัยและจำนวนประชากร ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในประเทศ
ฝั่งเอเชียที่ไม่ได้พึ่งพิงการอพยพเพื่อ เพิ่มประชากรโดยจากการศึกษาได้ระบุว่าใน
ปี 2020 ประเทศญี่ปุ่นมี 83 เมืองที่มี ประชากรอย่างน้อย 100,000 คนและมี 21
เมืองที่มีประชากรอย่างน้อยจำนวน 500,000 คคนซึ่งภายในปี

2120 เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ภาวะเจริญ พันธุ์ปานกลางจำนวนเมืองที่มีประชากร
อย่างน้อย 100,000 และ 500,000 คนก็จะลด ลงเหลือเพียงแค่ 49 เมืองและ 11 เมืองตาม
ลำดับแต่ถ้าเกิดญี่ปุ่นยังมีภาวะเจริญ พันธุต่ำก็จะมีเมืองที่มีประชากร 100,000
คนเพียง 42 เมืองเท่านั้นและจะเหลือเพียง 6 เมืองที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน
ซึ่งครื่องหนึ่งของเมืองในญี่ปุ่นอาจจะ หายไปในศตวรรษหน้าซึ่งตามข้อมูลของ
สหประชาชาติก็ได้ระบุว่าปัจจุบันนี้ ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกไปอาศัย
อยู่ในเมืองใหญ่เช่นเดียวกับประเทศ ญี่ปุ่นที่กว่า 80% ของประชากรทั้งหมด
นั้นอาศัยอยู่ในเมืองทั้งเขตเมืองใหญ่ของ ญี่ปุ่นที่มีสัดส่วนเพียง 6% เท่านั้นโดย
เขากล่าวว่าอีก 100 ปีต่อจากนี้ประชาชนจะ หลั่งไลเข้าไปอยู่อาศัยในเขตเมืองเพิ่ม
ขึ้นเรื่อยๆมากถึง 90% เสงของประชากรทั้ง หมดนอกจากเมืองใหญ่อย่างเช่นโตเกียว
ฟูกูโอกะก็จะเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีการ เพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมากที่สุดซึ่ง
ปัจจุบันนี้ฟูกูโอกะนั้นเป็นเขตมหานครที่ ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของญี่ปุ่นที่อยู่
ทางตอนเหนือของเกาะคิวชูซึ่งเป็นเกาะที่ ตั้งอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่นใกล้กับจีนและ
เกาหลีใต้ทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกและ ยังเป็นจุดแวะพักสุดท้ายของเส้นทางรถไฟ
ความเร็วสูงสายซันโยชินคันเซนและนอกจาก นี้จากผลการศึกษายังพบอีกว่าจำนวนประชากร
ในเมืองฟูกุโอกะจะเพิ่มขึ้น 61% ระหว่าง ปี 2020 จนถึง

2120 ซึ่งนั่นเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลง ของจำนวนประชากรผู้สูงอายุในฝั่งตะวันออก
ที่ลดลงอย่างรวดเร็วทำให้ศูนย์กลาง ประชากรนั้นต้องย้ายมาที่ฝั่งตะวันตกแทน
แม้ว่าโอซาก้าจะยังคงเป็นเขตมหานครที่ ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 แต่ว่าจำนวนประชากร
ก็คงจะลดลงเรื่อยๆโอซาก้านั้นเป็นเมือง ใหญ่ 5 อันดับแรกเพียงแห่งเดียวที่มี
ประชากรจำนวนลดลงตั้งแต่ปี 2000 เป็นผลมา จากการคมนาคมที่สะดวดสบายมากขึ้นช่วยลด
ระยะเวลาการเดินทางระหว่างโตเกียวและ โอซาก้าทำให้ประชากรไม่จำเป็นต้องย้ายมา
อยู่ในโอซาก้าอีกต่อไปและในขณะเดียวกัน ที่นาโกย่าก็จะสามารถครอกสถานะเมืองใหญ่
อันดับที่ 3 ได้เพราะว่าเป็นศูนย์กลางของ ผู้ผลิตรายใหญ่แม้ว่าประชากรจะลดลงอย่าง
มากการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่านาโกย่าจะมี ประชากรในเมืองเหลือเพียง 5.29 ล้านคนภาย
ในปี 2070 และในปี 2120 จะเหลือเพียง 3.06 ล้านคนเท่านั้น
ซึ่งนั่นหมายความว่าระหว่างปี 2020 ถึงปี 2120 จะมีประชากรลลดลงถึง 58% เพราะ
ฉะนั้นจะเห็นว่าเมืองที่มีประชากรน้อย กว่า 100,000 คนที่ไม่ได้มีรถไฟชิ้นคัน
เซ็นและทางหลวงโทคโนโลยี

ของโตเกียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองที่อยู่ ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุเมืองเหล่า
นี้ก็จะหายไปด้วยแม้ว่าจะอยู่ตามแนวรถไฟ ชินคันเซ็นก็จะมีแค่เมืองเซ็นใดที่เป็น
เมืองหลวงของจังหวัดมีอย่างงี้ที่เหลือ รอดก็เพียงเท่านั้นโดยเขาสรุปว่าประชาชน
ในภูมิภาคโทโฮคุส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ และมีสภาพอากาศที่เหลวร้ายจนคนไม่อยากจะ
เข้าไปอยู่อาศัยและเมื่อคนที่อยู่ ปัจจุบันล้มหายตายจากไปก็เท่ากับว่าจะไม่
มีคนอยู่อาศัยอีกต่อไปโดยตกเกียวนั้นยัง คงเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่าง
หนาแน่นและจะยังหนาแน่นต่อไปเรื่อยๆส่วน ทางกับภูมิภาคอื่นๆที่ประชาากรเริ่มหดตัว
ลงโดยปัจจุบันราคาที่ดินในเมืองหลวงกำลัง สูงขึ้นแล้วก็มีโครงการที่อยู่อาศัยมาก
มายโดยในเดือนมีนาคมปีนี้มีอาคารที่มี ความสูงมากกว่า 20 ชั้นกำลังก่อสร้างหรือ
ว่าวางแผนแล้วเสร็จหลังจากปีนี้มากถึง 321 โครงการแต่ว่าเขามองว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่
ได้คงอยู่ตลอดไปเพราะว่าเมื่อมีเทคโนโลยี และการคมนาคมก้าวหน้ามากขึ้นคนก็ไม่
จำเป็นต้องมากระจุกตัวในเมืองใหญ่ซึ่ง สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในปี 2020 ถึง
ปี 2120 ราคาที่ดินน่าจะลดลงถึง 30% แต่ว่า

ราคาที่ดินทั้งหมดในเขตเมืองใหญ่ที่สุด 3 แห่งของญี่ปุ่นน่าจะลดลงมากกว่าถึง 38%
โดยเฉพาะในโซนโตเกียวโอซาก้าและนาโกย่า นอกจากนี้เมื่อความบันเทิงและการสั่งซื้อ
สินค้าสามารถทำได้แค่ปลายนิ้วห้าง สรรพสินค้าและร้านค้าตเมืองต่างๆก็จะหาย
ไปและถูกจำกัดไว้แค่เพียงในเมืองใหญ่ส่วน ที่เหลือของประเทศก็จะถูกทิ้งร้างและถูก
สัตว์ป่าและธรรมชาติเข้ายึดครองและเมื่อ มีคนน้อยกว่าเมืองจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่
จะรักษาเมืองเอาไว้ทั้งหมดเพราะฉะนั้นรัฐ จะต้องเลือกและพัฒนาบางเมืองที่เหมาะ
สำหรับการลงทุนและสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ของญี่ปุ่นในอนาคต
[ปรบมือ] [เพลง]

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *