เขาบอกว่า “กูเป็นบ้าแต่กูช่วยมึงได้นะ มึงเดือดร้อนอะไรให้นึกถึงกูกูชื่อสรวงรวมสุดยอดตำนานปาฏิหาริย์หลวงปู่สรวงเทวดาเดินดินตัวผู้เขียนเอง”
ก็เริ่มรู้เรื่องราวขององค์หลวงเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมาเมื่อเขาได้เห็นรูปถ่ายในกระเป๋าของรุ่นพี่คนหนึ่ง เขาจึงถามว่ารูปของใครนั้น รุ่นพี่ก็บอกว่าชื่อหลวงปู่
หลังจากนั้น เขาก็เล่าเรื่องราวของลูกใบนั้นให้ฟังว่าประมาณปีพุทธศักราช 2535 เขาเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจการธนาคารหนึ่งที่จังหวัดสกลนคร โดยเขาเป็นคริสเตียนอยู่แล้ว
วันหนึ่งที่เขาก็เดินทางด้วยรถของธนาคารไปทำธุระที่ต่างจังหวัด รถได้คับคั่งมาเลียบน้ำโขงจนมาถึงระยะหนึ่งที่เขาเกิดปวดฉี่ขึ้น และขอลงข้างทางพอฉี่เสร็จ พอลงมาแล้วก็นึกอยู่ข้างน้ำโขงก่อนให้รถเข้าเมืองก่อน
และก็แล้วเป็นกับกันว่าเขาจะเดินเล่นที่ริมน้ำโขง ที่เขาบอกว่าก็อยากจะเดินดูอะไรกับน้ำผมนี้แหละสักพัก พอเดินกลับหันหลังก็ตกใจเพราะมีพระแก่แก่นุ่งผ้าไม่ค่อยเรียบร้อย สักเท่าไหร่สะพายอย่างมายืนอยู่ตรงหน้าตัวแกซึ่งตอนนั้นเป็นคริสเตียนก็ถามว่าอ้าวหลวงตามายังไงเนี่ย
หลวงปู่สวมก็บอกว่า “บอกมารอมึงไงล่ะเก่ง” เขาก็เลยถามต่อไปดีกว่ารอทำไม
หลวงปู่สรวงก็บอกว่า “ก็ไม่ได้เจอกันนานพี่ คุยไปเรื่อยเปื่อยถามนั่นถามนี่ไปเรื่อยจนหลวงปู่ตัดบทว่าไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
อยากได้ของดีอะไรใหม่อีกเขาก็ว่าไม่รู้จะเอาอะไร
หลวงปู่สรวงถามมาว่า “จะเอาเหล็กไหลไหม”
ในตอนนั้นที่เขาก็ไม่รู้ว่าเหล็กไหลคืออะไรก็เลยถามมาเป็นยังไง
เหล็กไหลจึงถามว่า “อยากเห็นหรือเปล่า”
ที่เขาจึงบอกว่า “มี”