กัมพูชาซ่อมปราสาทโบราณเองไม่เป็นต้องให้เยอรมันมาช่วย พร้อมโชว์ชุดซัมปอตแบบใหม่อ้างออกแบบเอง

แล้ววันนี้จะนำคลิปหนึงมาให้เพื่อนๆชมกัน ค่ะตอนนี้การแต่งกายด้วยชุดประจำชาติใน
ประวัติศาสตร์ดั้งเดิมของกัมพูชาได้กลาย เป็นแบบนี้ไปแล้วนะคะอันนี้เป็นคลิป
วีดีโอที่มีระยะเวลาค่อนข้างนานแต่ว่าเรา จะมาโฟกัสที่การแต่งกายค่ะซึ่งการแต่งกาย
ดูแล้วก็ไม่ต้องบอกเลยว่าน่าจะเป็นชุด ประจำชาติของประเทศอะไรแล้วก็ที่สำคัญใน
คลิปวีีดีโอนี้เขาได้เพิ่มอุปกรณ์ที่เป็น เครื่องประดับเพิ่มเติมโดยสิ่งนี้ก็คือ


ร่มนะคะเขาบอกว่าร่มนี้เนี่ยจริงๆแล้ว เป็นงานฝีมือทางวัฒนธรรมของเมียนมาร์นั่น
เองนางแบบเป็นคนเขมรค่ะใส่ชุดไทยถือร่ม ของเมียนมาร์เดินในนครวัดอวดความสวยงาม
แต่ว่าบอกว่าเป็นชุดโบราณสไตล์เขมรดั้ง เดิมโดยมีคนเขมรบางคนมาร่วมคอมเมนต์บอก
ว่าการแต่งกายแบบนี้คือชุดประจำชาติที่ สวยงามตอนนี้ิกัมพูชากำลังมีนวัตกรรมการ
แต่งกายพื้นบ้านที่ดูสวยงามและเป็นการยืน ยันประวัติศาสตร์ของกัมพูชาว่ามีมาอย่าง
ต่อเนื่องยาวนานนี่แหละคือความภาคภูมิใจ อยู่ในแหล่งประวัติศาสตร์แหล่งมรดกโลกพวก
เราชาวกัมพูชาร่วมกันภาคภูมิใจในวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของพวกเราและยังมีบาง
คอมเมนต์มาแบบว่าเขียนว่าชุดแบบเนี้ยคือ ชุดซัมปอตเลยค่ะแต่จริงๆว่าเป็นชุดสไบบอก
ว่าชุดซัมปอตนั้นเป็นผ้ายาวที่ยังไม่ได้ เย็บพันตั้งแต่เอวถึงน่องอยู่ในประเทศ
กัมพูชาผู้ใหญ่ทุกคนจะสวมใส่ได้โดยมีการ ผูกเอาไว้ใต้แค้นและผูกผ้าไว้ด้านหลัง
สามัญชนจะสวมผ้าสีที่เรียบง่ายส่วน ราชวงศ์จะใช้ผ้ายกและมีดีไซน์สวยงามตาม
ธรรมเนียมแล้วชาวกัมพูชาจะเดินด้วยเท้า เปล่าไม่สวมหมวกยกเว้นขุนนางเท่านั้นโดย
ตอนนี้ในสื่อโซเชียลของกัมพูชาได้มีการ เผยแพร่การแต่งกายในลักลักษณะแบบนี้ไป
ทั่วทำให้หลายๆคนเนี่ยรับรู้ว่าชุดแบบนี้ เรียกใหม่ว่าเป็นชุดซัมปอตค่ะเพราะฉะนั้น

เราก็ต้องมาติดตามกันว่าประเทศกัมพูชาจะ ยื่นชุดแบบนี้ขึ้นเป็นมรดกโลกจริงหรือไม่
อย่างที่มีข่าวออกมาค่ะว่าทางด้านรัฐบาล ของกัมพูชาจะมีการยืดชุดแต่งงานดั้งเดิม
ของกัมพูชากับยูเนสโกซึ่งจริงๆแล้วดีไซน์ นั้นก็คือละไม้คล้ายกับชุดไทยคือมีสไบ
เป็นตัวหลักและตอนนี้ก็ได้มีการการพัฒนา ชุดซัมปอตแต่ว่าแต่งกายแบบชุดสไบแต่ว่า
เรียกว่าซัมปอตเพราะว่าโยงคำว่าสไบนั้น เป็นหนึ่งในภาษาสันสกฤตโดยมีชาวกัมพูชา
บางคนบอกว่าภาษาสันสกฤตนี่แหละเป็นราก ศัพท์ของภาษาเขมรที่แท้จริงและในขณะนี้
กัมพูชาก็กำลังพยายามจะโปรโมทการท่อง เที่ยวด้วยการบูรณะในส่วนของอังกอวัดโดย
ล่าสุดทางด้านกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิสีล แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ได้ออกมาประกาศ
ค่ะว่าทางอบตของกระทรวงอัสรานั้นกำลัง ซ่อมแซมเฉลียงและราวบันไดมังกรวัดบันทสเร
โดยทีมงานวิชาการของกรมอนุรักษ์วัดและ โบราณคดีขององค์การอัปสราแห่งชาติใน

ปัจจุบันนี้กำลังมีการเริ่มดำเนินการซ่อม แซมเฉลียงและมือมังกรทางด้านตะวันออกของ
มุมตะวันตกเฉียงเหนือของวัดบันทายสำเรโดย โครงการปปรุงนี้ได้อยู่ภายใต้ความร่วมมือ
ระหว่างหน่วยงานอัปสราแห่งชาติและองค์กร GIS ของประเทศเยอรมนีโดยมีลองนารีผู้
เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์หินกรมอนุรักษ์ วัดและโบราณคดีได้เปิดเผยว่าในขณะนี้
ระเบียงทางด้านตะวันออกมุมตะวันตกเฉียง เหนือของวัดบันทสำเรนั้นจำเป็นจะต้อง
เสริมรากฐานและโครงสร้างของโบราณสถานให้ มีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้นกว่าเดิม
เพราะว่ารากฐานและระเบียงนี้บางแห่งบาง จุดได้มีการสุดส่งเป็นอย่างมากรวมถึงได้
สังเกตว่ามีรอยแตกบนหิ้นทำให้โครงสร้าง ของตัวปราสาทที่ระเบียงมีความอ่อนแอลง
อย่างมากซึ่งถ้าหากมีนักท่องเที่ยวเดินมา บริเวณนี้เยอะก็อาจจะทำให้มีความทรุดโทรม
ได้เพราะฉะนั้นจึงต้องรีบบูรณะในส่วนนี้ ส่วนที่วางมังกรด้านบนระเบียงช่างก็กำลัง


ซ่อมแซมให้ได้มากที่สุดโดยหลงนารีกล่าว ว่าขณะนี้ทีมงานได้เคลื่อนย้ายหินบางส่วน
ที่ได้พังทลายลงและหินบางส่วนที่ได้แตก ออกจากกันแล้วและพยายามจะทำให้กลับเข้าหา
กันซึ่งในการซ่อมแซมเบ้ามังกรนี้จะใช้กาว ไฟเบอร์กลาสที่ใช้ในการติดหินที่หักและ
แตกออกจากกันให้กลับเข้าไปติดกันใหม่ เหมือนเดิมและจะมีการใช้เส้นใยเหล็กเพื่อ
เชื่อมหินและรองรับน้ำหนักบางส่วนของหิน ดยโดยส่วนหินส่วนเก่าที่หักแล้วก็หายไป
ทีมงานได้พยายามใช้หินรุ่นใหม่มาปิดเอา ไว้ในขณะที่บางจุดที่หินหายไปจะต้องมีการ
แกะสลักเพิ่มแล้วก็มีการเปลี่ยนหินใหม่ โดยในปัจจุบันนี้ที่เฉลียงระเบียงและมือ
มังกรทางด้านตะวันออกของวัดบันทสำเรทาง ด้านตะวันออกเฉียงเหนือก็ได้มีหินชำรุด
บริเวณหลายจุดบางก้อนหินก็แตกแตกจากด้าน บนแต่จากด้านล่างหินบางก้อนก็แตกที่ด้าน
ข้างแล้วก็ด้านอื่นๆซึ่งส่วนใหญ่หินที่ แกะสลักก็จะอยู่ในสภาพที่เสื่อมมจนต้อง
ให้ช่างมาบำบัดและกำจัดเกลือออกจากหิน ก่อนจึงจะสามารถใส่กลับที่เดิม

ได้วันนี้มีภาพบรรยากาศการจัดงานที่เรียก ว่านิทรรศการของกัมพูชาในประเทศสิงคโปร์
แต่ว่ารู้สึกสะดุดตานิดนึงที่การจัดงาน นี้คนร่วมงานที่เป็นคนเขมรกลับใส่ชุดไทย
แล้วก็มีสบเนี่ยสิซึ่งได้มีการเปิดเผยจาก กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ของกัมพูชา
ว่านครวัดจำลองประติมากรรมสิ่งประดิษฐ์ และกล้วยไม้ของกัมพูชาได้จัดแสดงที่
นิทรรศการกล้วยไม้นครวัดในประเทศสิงคโปร์ โดยเริ่มต้นจัดงานตั้งแต่วันที่ 17
พฤษภาคมที่ผ่านมาณสถานที่ก็คือ The Garden SP the B ที่ประเทศสิงคโปร์
โดยมีพิธีเปิดงานกล้วยไม้แห่งนครวัดจัด ขึ้นภายใต้ประธานของสถานทูตกัมพูชาที่
อยู่ณประเทศสิงคโปร์และเลขาธิการอาวุโส กระทรวงวัฒนธรรมชุมชนและเยาวชนของ
สิงคโปร์โดยเอกอัครราชทูตได้กล่าวว่า กิจกรรมสำคัญนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ กัมพูชาและแนะนำกัมพูชาให้กับนักท่อง
เที่ยวชาวต่างชาติตลอดจนส่งเสริมความ สัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและสิงคโปร์รวมถึง
การติดต่อระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ให้ให้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมากยิ่ง
ขึ้นนอกจากนี้ยังกล่าวเสริมว่าอังกอวัด ของประเทศกัมพูชาและ The goden By the
B ของสิงคโปร์เป็นสถานที่ที่มีผู้เข้ามา เยี่ยมชมมากที่สุดของทั้ง 2 ประเทศใน

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยนครวัดนั้นมี นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเย็นมากที่สุดเป็น
อันดับ 1 และ garden by the B ตามมา เป็นอันดับที่ 2 ซึ่งหวังว่านิทรรศการนี้
จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ The gardens By the B ซึ่งคาดว่าจะมีนัก
ท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมชมนครวัด ที่แท้จริงของกัมพูชาโดยการจัดนิทรรศการ
นี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างสถานทู กัมพูชาในสิงคโปร์และ The gens By the
B ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวง วัฒนธรรมและวิจิตศิลป์แห่งประเทศกัมพูชา
กระทรวงเกษตรและป่าไม้แห่งกัมพูชากระทรวง วัฒนธรรมชุมชนและเยาวชนและกระทรวงการ
พัฒนาสังคมและครอบครัวแห่งออสเตรเลียโดย นิทรรศการนี้จะจัดขึ้นเป็นเวลา 4 เดือน
ยาวไปจนถึงวันที่ 8 กันยายนปี 2024

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *